ความแตกต่างของคุณภาพงานพิมพ์ของหัวพิมพ์แต่ละแบบ
มีคำถามมากมายเกี่ยวกับหัวพิมพ์ว่าแตกต่างกันอย่างไรระหว่าง Xaar , Seiko , Konica ซึ่งมีขายอยู่มากมายในประเทศเรา หลายคนไม่เคยรู้จัก ก็จะงง และไม่เข้าใจ บางทีตัดสินใจซื้อสินค้า อยากได้งานสวยๆ แต่ก็โดนเซลล์หลอกขายเครื่อง หัวพิมพ์ความละเอียดต่ำให้ สุดท้ายก็นั่งกลุ้มใจ มีลูกค้าหลายคนมาปรึกษาผม ผมก็ได้ให้ข้อมูลไป แต่พอถามเยอะๆคำถามเดียวกัน ผมจึงนึกขึ้นว่า ผมน่าจะทำเป็นบทความ เผื่อคนที่ไม่กล้าถาม หรือคนที่ อยากถามแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ผมจึงได้รวบรวมข้อมูลเบื่องต้นถึงหัวพิมพ์แต่ละหัว และข้อแตกต่างเอาไว้ ดังนี้ (ในบทความนี้ จะอ้างอิงเฉพาะเครื่องจีนนะครับ เพราะเครื่องจีนแต่ ใส่หัวพิมพ์ที่แตกต่างกัน)
Last Update : 13:31:24 29/10/2010
X-Stand
Brand : AM
Model : AM X-stand
แพลตตินั่ม เอ็กซ์-แสตน กว้าง 80x180ซม. พื้นที่งานพิมพ์ ที่มากกว่า พร้อมงานพิมพ์คุณภาพ ระบบดิจิตอล เคลือบลามิเนต เพื่อความคงทนและซองใส่
Last Update : 15:41:57 19/10/2011
POP UP FULL
Brand : AM
Model : AM-3
ป๊อปอัพ คุณภาพ ขนาดกว้าง 1.9ม. x สูง 2.2ม. แบบโค้ง ทำจากเฟรมอลูมิเนียมคุณภาพดี พิมพ์ด้วยระบบดิจิตอลที่ความ ละเอียด 2400dpi สีสันสดใส เคลือบลามิเนตเพื่อความทนทาน พร้อมซองกันกระแทกอย่างดี
Last Update : 15:31:25 19/10/2011
Roll UP
Brand : AM
Model : AM-Roll UP
บัดเจ็ท โรลอัพ แบนเนอร์แสตน เป็นโมเดลที่เป็นที่นิยม ในราคา ประหยัด และเป็นสินค้าที่ราคาถูกกว่าเมื่อเทียบกับราคา กับคุณภาพ ตัวกล่องทำจากอลูมิเนียมน้ำหนักเบางานพิิมพ์
Last Update : 15:23:32 19/10/2011
Inkjet vinyl - sticker pvc ป้าย
Outdoor Printing ให้ความละเอียดสูงสุดถึง 1440 dpi ด้วยหัวพิมพ์ระบบ piezoelectric ของ Seiko และใช้หมึก eco sovent แท้จึงทำให้งานพิมพ์มีความคงทนทาน ต่อสภาพแวดล้อมภายนอกอาคาร เช่น แสงแดด ฝน ฯลฯ
Last Update : 15:09:32 19/10/2011
HP 5100 Designjet
Brand : HP
Model : 5100 Designjet
ใหม่ Hp5100,5500 มาพร้อมกับ การปฎิวัตครั้งใหม่ของ Inkjet ด้านความเร็ว 27 ตรม./ชม. ด้านความคมชัด 1200 DPI ด้านความนิ่ง ใช้ Progames HP เท่ พร้อมราคากระชับกว่าเก่า และสั่งพิมพ์ดีขึ้น
Last Update : 14:44:05 19/10/2011
HP 5100
Last Update : 00:00:00 01/01/2011
Seiko printing for sign
Last Update : 00:00:00 01/01/2011

ความแตกต่างของคุณภาพงานพิมพ์ของหัวพิมพ์แต่ละแบบ

Last Update: 13:31:24 29/10/2010
Page View (2176)

 

 มีคำถามมากมายเกี่ยวกับหัวพิมพ์ว่าแตกต่างกันอย่างไรระหว่าง Xaar , Seiko , Konica ซึ่งมีขายอยู่มากมายในประเทศเรา หลายคนไม่เคยรู้จัก ก็จะงง และไม่เข้าใจ บางทีตัดสินใจซื้อสินค้า อยากได้งานสวยๆ แต่ก็โดนเซลล์หลอกขายเครื่อง หัวพิมพ์ความละเอียดต่ำให้ สุดท้ายก็นั่งกลุ้มใจ มีลูกค้าหลายคนมาปรึกษาผม ผมก็ได้ให้ข้อมูลไป แต่พอถามเยอะๆคำถามเดียวกัน ผมจึงนึกขึ้นว่า ผมน่าจะทำเป็นบทความ เผื่อคนที่ไม่กล้าถาม หรือคนที่ อยากถามแต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ผมจึงได้รวบรวมข้อมูลเบื่องต้นถึงหัวพิมพ์แต่ละหัว และข้อแตกต่างเอาไว้ ดังนี้ (ในบทความนี้ จะอ้างอิงเฉพาะเครื่องจีนนะครับ เพราะเครื่องจีนแต่ ใส่หัวพิมพ์ที่แตกต่างกัน)

 

เริ่มต้นที่ หัว Xaar 360dpi จะมี Xaar 500 , 128/200 , 128/360 , 126 เป็นหัวพิมพ์ที่ขายเป็นจำนวนมาก และหลายๆคนคงรู้จักกันดีครับ   แหล่งที่มาจากประเทศอังกฤษครับ เมื่อก่อนหัวพิมพ์อย่าง Xaar ได้รับความนิยมอย่างมากแต่ปัจจุบันมีหัวพิมพ์รุ่นใหม่ๆเพิ่มขึ้นมา ทำให้หัวพิมพ์ ตระกูลนี้ตกรุ่นไปโดยปริยาย  เมื่อก่อน งานพิมพ์ Outdoor เป็นเครื่องพิมพ์ที่ใช้ดูระยะไกล ความคมชัดรุ่นแรกๆ ต้องมองกันหลายสิบเมตร แล้วถึงจะชัด ซึ่งหัวพิมพ์พวกนี้ จะเป็นหัว Xaar 500 ความคมชัดน้อยมาก  ร้านป้ายเจ้าใหญ่ๆหลายเจ้า ที่เวลา ให้ลูกค้า Approve อาจลำบากถึงขนาด พิมพ์แล้วกางให้ลูกค้าดูเป็นสิบๆเมตร หรือมีอีกพวกพลิกแพลง ใช้หัวพิมพ์ Mimaki หรือ Loland ในขณะนั้นพิมพ์ เพื่อให้ลูกค้า Approve งาน แล้วพิมพ์จริงเป็นป้ายใหญ่ ดูระยะไกล งานก็ชัดใกล้เคียงกัน ครับ จนXaar พัฒนาหัวพิมพ์ขึ้นมา ถึงXaar128/360 และ ล่าสุด Xaar 318 ที่เข้ามาขายในไทย แต่ก็เงียบหายไป เครื่องพิมพ์หัว Xaar เริ่มเปลี่ยนยุค หัว128/360 และ128/200 เป็นหัวพิมพ์สองรุ่นที่ มีขายเยอะที่สุด และมีการขายออกเป็นมือสอง มาก ผู้ที่มองหามือสองช่วงนี้อาจได้ของราคาถูก สภาพดีๆได้ครับ งานพิมพ์ ถ้าไม่เน้นดูใกล้จนเกินไปครับ แต่ถ้าจะซื้อมือ 1 ไม่ควรแล้วครับเพราะว่า ราคาเครื่องพิมพ์ อย่างโคนิก้า หรือ ไซโกะ ราคาถูกลงมาใกล้กับราคาซาร์12 หัวพิมพ์ใหม่ๆแล้วครับ

ข้อดี  เครื่องหัวพิมพ์ Xaar คือหัวพิมพ์ราคาถูก ใช้ง่าย พิมพ์กลบ Pass กัน (คล้ายๆกับการทาสีครับ พิมพ์4pass เหมือน ทาสีทับกัน4เที่ยวเป็นต้น) แต่เฉพาะรุ่น Xaar 500 จะราคาแพง มากและความคมชัดต่ำมาก จึงทำให้ความนิยมลดลงจนปัจจุบันอาจหารุ่นนี้ในตลาดแทบไม่ได้แล้ว

ข้อเสีย ความคมชัดน้อยและหลายๆ ร้านเข้าใจผิดในการใช้หมึกพิมพ์ ที่ราคาถูกเพื่อลดต้นทุนการผลิต ทั้งๆที่ต้องเปลี่ยนหัวบ่อยๆ ผมเคยเจอ บางร้าน 3เดือนเปลี่ยนที แต่ก็ยังใช้หมึกในเกรดต่ำอยู่

รุ่นต่อมา หัวพิมพ์ Seiko Spt 510/35pl  ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น มีรูออกน้ำหมึก 510 รู ความละเอียด 35pl (พิโคลิตร หนึ่งหยดหมึกสี วัดเส้นผ่าศูนย์กลางเป็นหน่วยวัด คือ พิโคลิตร ยิ่งตัวเลขน้อย ความละเอียดของหยดหมึกสีจะมาก เที่ยบกับปากกา 0.1 ตัวเลขน้อยจะละเอียดกว่า 0.5 เป็นต้น ) เป็นหัวพิมพ์ รุ่นต่อมาออกมาสักระยะ แล้วครับ แต่ช่วงแรกไม่ได้รับความนิยม ต่อมาราคาลดลงเรื่อยๆ ทำให้ความนิยมมากขี้น เรื่อยๆครับ แรกเห็นหัวพิมพ์รุ่นนี้ ผมว่ามันสุดยอดเลยครับ ความละเอียดที่ 720 dpi ทำได้ถึง 1440 dpi แต่ ผมเคยเห็น ของSKII พิมพ์งานได้สวยมากๆ แต่ที่ทำออกมาจากจีน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขี้นงานที่ออกมาไม่ดีเท่ากับเครื่อง Original อย่าง SKII ต้องใช้สีละเอียดค่อนข้างเลือกสีครับ เครื่องพิมพ์รุ่นนี้ พิมพ์ไม่กลบpass กันถ้าสีขาดจะหายเป็นทางยาว ถ้ากดหยุดไม่ทัน งานจะเสีย จึงมีคนบอกว่า Seiko สีขาด จริงๆคือสีลงไม่ทันครับ ต้องคอยคอยเฝ้างานตลอด แต่วิธีแก้ก็แค่หยุดแล้วไล่สีเช็ดหัวพิมพ์ แล้วพิมพ์ต่อ ในประเทศจีนเครืองรุ่นนี้ กลับหมดความนิยมลงอย่างรวดเร็ว และผู้ผลิตที่ผลิตหัวSeiko กล้บหันไปผลิตหัวพิมพ์ Specta แทน มีปัญหาน้อยกว่า พิมพ์เร็วกว่า ในประเทศไทยไม่ได้รับความนิยมเพราะความละเอียดน้อยมาก เต็มที่ 1200 dpi เท่านั้นไม่ถึง 1440 

ข้อดี  หัวพิมพ์ที่มีอยู่ 510 รู มาเรียงเป็นหน้ากระดานเลยทำให้เวลาพิมพ์ของแต่ละครั้งได้กว้างมากหน้าพิมพ์ 3นิ้วหัวพิมพ์ ใหญ่4นิ้ว  หัวพิมพ์และเครื่องราคาถูกกว่า(เมื่อเทียบกับ konica)

ข้อเสียของ Seiko

1 .ด้วยที่เรียงกันแค่เส้นเดียว(510รู) เลยทำให้สีที่ออกมาจืดเลยต้องพิมพ์อย่างน้อย 3 pass และถ้าต้องการแบบสวยหน่อยก็ต้อง 4pass ถ้า 2 pass สีจะจืดเลย

2.รูน้ำหมึกทั้ง 510 รู จะโดนส่งหมึกผ่านโดยท่อหมึกเส้นเดียวตรงกลางเส้น เล็กๆ โดยส่งลงมาเมื่อถึงหัวจะใช้ท่อเหมือนออก 3ทางเมื่อพิมพ์สีแข้ม ๆ หรือ พิมพ์ด้วยความเร็วสูงจะทำให้สีลงไม่ทันจึงทำให้สีวูบหาย  เหมือนหัวตัน จริง ๆ แล้วไม่ใช่ตันแต่เป็นสีหายลงไม่ทัน มันก็เลยทำให้เสียเวลาต้องหยุดดูดบ่อย ๆ สิ้นเปลืองน้ำหมึกแต่ถ้าไม่มีคนเฝ้าก็ทำให้งานเสียไปเลย พอหัวอัดบ่อย ๆ ก็ทำให้หัวเสื่อมเร็ว

3. ตัวหัวพิมพ์แผงวงจรจะเปลือยถ้าใช้นาน ๆ เมื่อน้ำยาโซเว้นไปโดนบ่อย ๆ ก็อาจทำให้แผงลัดวงจรช๊อตได้

สุดท้ายหัวพิมพ์ Konica 512/14pl  , 512/42pl สามารถพิมพ์ได้ต่ำสุดที่ 1pass สีอาจจืดไปซีดไป แต่ที่นิยมพิมพ์กันคือ 2 pass สามารทำงานออกมาได้เท่ากับ 4pass ของเครื่องSeiko และXaar เป็นหัวพิมพ์ที่ ผลิตจากประเทศญี่ปุ่น เนื่องจากหัวพิมพ์รุ่นนี้ออกมาหลังสุด ก็ได้เอาข้อดีข้อเสียของแต่ละรุ่นมาพัฒนา คือเอาเรื่องของการกลบpass ของหัวซาร์มา คือดูที่ ด้านใต้ของหัวพิมพ์ ถ้าสังเกตุ จะเห็นหัวพิมพ์ Konica มี 2ร่อง ในหัวเดียว ร่องละ 256รู ขณะที่พิมพ์ไปจะมีการพ่นหมึกสลับกันไปมาขณะวิ่งซ้ายหัวซ้ายพิมพ์ขณะวิ่งขวาหัวขวาพิมพ์กลบงาน ทำให้เกิดการกลบpass กัน งานไม่เสียถึงแม้ว่าสีจะขาดร่องใดร่องหนึง แต่ขณะที่พิมพ์ไปทางขวา หัวที่ด้านซ้ายจะถูกเติมเต็มหมึกแล้วพร้อมที่จะพิมพ์ และพอพิมพ์กลับมาที่หัวด้านซ้ายอีกที หมึกก็จะไม่ขาดครับ หัวที่ใหญ่ก็ถูกย่อให้เล็กลง และเพิ่มท่อขนาดใหญ่ด้านห้าหัวพิมพ์ถึง 2ท่อ(ใส่สลับกันได้) ท่อนึงสีเข้าอีกท่อนึงเป็นท่อสำรองหมึกกันหมีกขาดและรักษาสมดุลย์สี พร้อมกับเอาไว้ล้างหัวพิมพ์ได้ในตัวโดยไม่ต้องถอดหัวออกจากช่องใส่   หัวพิมพ์โคนิก้ามีสองรุ่นคือ ที่ 14pl หรือ 42 pl ซึ่งหัว 14pl ความละเอียดสูงก็จริง แต่ต้นทุนการผลิตก็สูงตามกลับกัน รุ่น 42pl กลับมีต้นทุนการผลิตที่ถูกมากเพราะพิมพ์ แต่ความนิยมน้อยกว่าเพราะความเหมาะสมสำหรับเลือกเครื่องไปใช้กับงานพิมพ์ เช่น เลือก 14pl ไปใช้งานที่ต้นทุนต่ำ เช่นขายตารางเมตรละ 60 บาท ก็จะสู้ไม่ไหวเพราะต้นทุนอาจสูงถึงตารางเมตรละ 50 บาท (ไวนิลพร้อมสีต่อตารางเมตร) แต่กลับหัว 512/42pl กลับทำต้นทุนได้ต่ำกว่า และพิมพ์แค่ 2pass สุดยอดแห่งความประหยัดครับ

ข้อดี

1.พิมพ์กลบ pass กันเพราะมีร่องพิมพ์ 2ร่องทำให้พิมพ์เร็ว และสีละเอียดถึงแม้จะมีความละเอียดที่ 42pl แต่พิมพ์งานละเอียดได้ (ตัวหนังสือ 1 มิลพิมพ์ได้)

2.รูน้ำหมึกเข้าของหัว konica มีท่อเข้าถึง 2 ท่อ และท่อก็ใหญ่กว่า seiko จึงทำให้พิมพ์เร็ว ( HI SPEED ) ได้โดยสียังสามารถส่งทัน และสีไม่หาย

3.ตัวหัวจะปิดด้วยแผ่นพลาสสติ๊กมิดชิดแม้จะแช่หัวนานแค่ไหนก็ไม่ทำให้หัวเสีย ทำให้อายุการใช้งานยาวนาน ที่เมืองจีนมีแจ้งว่าอยู่ถึง 5ปีแล้วยังไม่เปลี่ยนหัวครับ    


ข้อเสีย  คงจะเป็นเรื่อง ราคาอาจสูงกว่า เครื่องพิมพ์หัวพิมพ์อื่นๆอยู่พอสมควรครับ

 

 

 



 
© 2000-2008 CopyRight by Thanasarninter Group Co.,Ltd.
Tel. 0832424345  Fax. 02-2470181  Website. www.inkjetthai.com
disclaimer | privacy | contact us

  Sale Login Warehouse Login Driver Login