เนื่องจากทางบริษัท ซายน์ลูชั่น จำกัด ได้เข้าร่วมกับโครงการ ECIT ของกรมส่งเสริมอุสาหรรม
ความเป็นมาของโครงการ
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดท าโครงการน าร่อง “โครงการพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของอุต
สาหกรมมทยด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศ” โดยใช้เงินงบประมาณประจ าปี 2552 (เดือนตุลาคม 2551-กันยายน 2552) โดยมี
วัตถุประสงค์กระตุ้นให้ธุรกิจวิสาหกิจการบริหารจัดการงานต่างๆผ่านระยยเครือข่ายอินเตอร์เน็ต(Web Based
Appication Software) โดยเน้นว่าซอฟต์แวร์ที่ใช้ต้องเป็น ซอฟต์แวร์ไทยที่พัฒนาโดยซอฟต์แวร์เฮาส์ไทยเท่านั้น ซึ่ง
หน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนร่วมกันจัดท าขึ้น เพือสนับสนุนการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศที่หลากหลายในอัตรา
ค่าใช้จ่ายที่ SMEs สามารถยอมรับได้ ซึ้งเป็นการกระตุ้นให้ SMEs ยอมรับและเชื่อมั่นในซอฟต์แวร์เฮาส์ไทยว่า สามารถ
ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการในองคืกร ซึ่งวส่งผลให้อุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย มีการเติบโตและเพิ่มศักยภาพใน
การแข่งขัน นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของ(SME)เพื่อเพิ่มประสิทธภาพขององค์กร รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุนให้
เกิดนวัตกรรมในสินค้าหรือบริการ เพื่อให้เกิดโอกาสทางตลาดใหม่๐โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนเทคโนโลยีสารสนเทศ มา
ประยุกต์ใช้กับการบริหาร การจดการในธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นมาตราฐานของรัฐบาลที่จะผลักดันให้อัตราการเจริญเติบโต
ทางเศรษฐกิจของไทย (GDP Growth Rate)และระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
(Competitiveness Rankijng)ให้เติบโตสูงขึ้น ซึ่งกิจกรรมหนึ่งที่มีความส าคัญในการด าเนินงานในโครงการนี้ คือ
การให้ค าปรึกษาแนะน า SMEs ใช้ระบบไอทีในธุรกิจอุตสาหกรรม ซึ่งระบบไอที ดังล่าว คือระบบซอฟต์แวร์บริหารจัดการ
ธุรกิจอุตสาหกรรม (ERP:Enterprise Resource Planning)โดยใช้แนวคิดการใช้ซอฟต์แวร์ผ่านระบบ ASP
(Application Service Provider)หรือการใช้โปรแกรมผ่านเครือข่านอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้
ว่าจ้าง บริษัท ทีโอที จ ากัด(มหาชน)เป็นผู้บริหารโครงการนี้ ซึ่งมีความพร้อมทั้งด้านเทคโนโลยีของระบบความพร้อมของ
บุคคลากรที่ดุแลระบบ นอกจากนี้บริษัท ทีโอที ต้องสรรหา บริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ไทย(Software House) ที่มี
ความพร้อมในระบบ ERP และ SMEs เข้าร่วมโครงการ โดยที่ Software House เป็นหน่วยงานในการสนับสนุนของ
ระบบซอฟต์แวร์ และให้ค าปรึกษาแนะน าพร้อมการฝึกอบรมแบบสมบูรณ์ เพื่อให้ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ สามารถใช้
ซอฟต์แวร์ดังกล่าวช่วยในการบริหารการจัดการในธุรกิจอุตสาหกรรมให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพทั้งนี้ในการลงทุนเพื่อให้เกิด
ระบบการให้บริการซอฟต์แวร์ผ่านอินเตอร์เน็ต บริษัท ทีโอที จ ากัด(มหาชน) เป็นผู้ลงทุนทั้งหมด
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. ให้เงินสนับสนุน SMEs เพื่อกระตุ้นให้ใช้ประโยชนืจาก เทคโนโลยีสารสนเทศในการเพิ่มประสิทธิภาพ และผลิต
ภาพของธุรกิจ
2. ให้เงิยสนับสนุน Software House เพื่อสนับสนุนการพัฒาระบบซอฟต์แวร์บน ASP และให้บริการซอฟต์แวร์แก่
SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ3. เพื่อให้มีการจัดท าระบบการให้บริหารซอฟต์แวร์การบริหารจัดการในธุรกิจอุตสาหกรรมผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
(ระบบ ASP)
กลุ่มเป้าหมาย
1. SMEs ในอุตสากรรมภาคการผลิตที่มีความต้องการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตผลของ
องค์กร
2. ธุรกิจอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ของไทยที่มีศักยภาพในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้ใรการเพิ่มประสิทธภาพ และผลิตภาพ
ในการด าเนินงานของอุตสาหกรรม
กิจกรรมให้ค าปรึกษาแนะน า SMEsใช้ระบบไอทีในธุรกิจอุตสาหกรรม
รูปแบบให้บริการ Software แก่ SMEs
การใช้โปรแกรมผ่านอินเตอร์เน็ต( ASP : Application Service Provider)
ประเภท Software ที่ให้บริการแก่ SMEs
โปรแกรมการบิหารจัดการธุรกิจอุตสาหกรรมครบวงจร : ERP (Enterprise Resource Planning) มี 4
โมดูล ได้แก่ การผลิต การเงิน การตลาด และงานบุคคล โดย SMEs สามารถเลือกบางโมดูลของโปรแกรมได้
วิธีการด าเนินงาน
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้จัดจ้างบริษัท ทีโอที จ ากัด(มหาชน) เป็นผู้บริหารงานในกิจกรรมให้ค าปรึกษาแนะน า
SMEsใช้ระบบไอทีในธุรกิจอุตสาหกรรม
จัดสัมมนาแนะน าโครงการให้กับ Software House เพื่อรับสมัครเข้าร่วมโครงการ
คัดเลือก Software House ด้านการบริหาร การจัดการในธุรกิจอุตสาหกรรม เข้าร่วมโครงการ โดยคณะกรรมการจาก
ภาครัฐฯ และภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง
จัดสัมมนาแนน าโครงการให้กับ SMEs เพื่อรับสมัครเข้าร่วมโครงการ
คัดเลือกผู้ท าหน้าที่ให้บริการอบรม และปรึกษาแนะน าแก่ SMEs
ให้ค าปรึกษาแนะน า การวางระบบ และการประยุกต์ใช้ระบบสารสนเทศในธุรกิจอุตสาหกรรม ( Implementation) ติดตาม และประเมินผลการด าเนินงาน
หน่วยงานร่วมด าเนินการ
เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย (Software Park)
ส านักงานส่งเสริมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์แห่งชาติ (SIPA)
สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย
หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน
ส่วนได้ส่วนเสียของผู้เข้าร่วมโครงการ
ผู้เข้าร่วมโครงการ ปี 2552 ปี 2553-2555 ผลประโยชน์ที่ได้รับ
SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ
ต่อราย(SMEs สามารถ
เลือกใช้ ERP ครบทุก
โมดูลหรือเลือกบางโมดูล
ก็ได้ขึ้นอยู่กับความพร้อม
ของ SMEsรายนั้น ๆ)
ได้รับเงินสนันสนุน
ค่าใช้จ่าย กรมส่งเสริม
ประมาณ 60%แต่ไม่เกิน 2
แสนบาทของค่าใช้จ่ายใน
การให้ค าปรึกาแนะน า
เฉพาะราย
(Implementation) ในการ
ใช้ซอฟต์แวร์ ERP
ในระบบ ASP ต้องจ่ายค่า
เช่าระบบ พร้อมการดูแล
รักษา (MA)รายเดือน
ให้กับ Software House
ไม่ต้องใช้เงินสนับสนุน
จ านวนมากในการใช้
ซอฟต์แวร์ ไม่ต้องใช้เงิน
สนับสนุนจ านวนมากใน
การใช้ซอฟต์แวร์ ERP ใน
กิจการ โดยได้ใช้ฟรีในปี
แรกและเสียค่าใช้จ่ายใน
การ Implementation
บางส่วน
Software House ที่เข้า
ร่วมโครงการ
ได้รับเงินสนับสนุน 1 ล้าน
บาท จากกรมส่งเสริม
อุตสาหกรรม แต่ต้องจ่าย
ค่าเช่าระบบและอุปกรณ์
อื่นๆที่เกี่ยวข้องให้กับ TOT
และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่
เกี่ยวข้องพร้อมกับไม่เก็บ
จ่ายค่าเช่าระบบและ
อุปกรณ์อื่น ๆที่เกี่ยวข้อง
รายเดือนให้กับ TOT
(Service Provider)
1.สามารถหาลูกค้าง่ายขึ้น
เพราะค่า Implementation
ทางกรมฯ ออกให้ 60%แต่
ไม่เกิน 2 แสนบาท
2.ได้ช่องทางการตลาด
เพิ่มขึ้นค่าเช่าใช้ซอฟต์แวร์จาก
SMEs ในปีแรก
TOT ในระบบ ASP จะลงทุน
Infrastructure ทั้งหมด
พร้อมระบบแครื่องแม่ข่าย
(ไม่รวมซอฟต์แวร์บริหาร
จัดการฐานข้อมูล)และการ
ส ารองข้อมุลที่มีการบริหาร
จัดการของเจ้าหน้าที่ TOT
การดูแลระบบต่าง ๆ 1.มีรายได้จากค่าเช่าระบบ
ASP
2.สามารถขยายช่องทาง
การตลาดในการให้บริการ
ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น
|