ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ผักโขม มี 3 ชนิด คือผักโขมจีน มีใบสีเขียวแก่ มีลายเส้นเลือดแดง ผักโขมสวน ใบเป็นสีเขียวอ่อน ก้านใบผอมยาว เป็นพันธุ์ที่เพาะขายแพร่หลายที่สุด ในเมืองไทย ผักโขมหนาม ใบสีเขียวใหญ่ ลักษณะเฉพาะตัว มีหนามที่ก้านและลำต้น ไม่ว่าจะเป็นผักโขมชนิดใด รสชาติคล้ายคลึงกัน (ผักพื้นบ้าน อาหารไทย, 2548, 74) ในที่นี้ขอกล่าวรายละเอียดของลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของผักโขมจีน ได้ดังนี้ (อรุณี วิเศษสุข และคณะ, 2542, 145) ต้น เป็นพืชล้มลุกฤดูเดียวลำต้นสีเขียว สูง 30 - 100 ซม. ลำต้นอวบน้ำสีเขียวอ่อนโคนต้นสีน้ำตาลแดง ใบ ใบเดี่ยวเรียงสลับเวียนรอบต้น ใบขนาดใหญ่กว้างประมาณ 7 ซม. ยาวประมาณ 10 ซม. รูปไข่กว้าง ปลายใบมนโคนใบป้าน ผิวเรียบหรือมีขนเล็กน้อย ขอบใบเรียบหลังเป็นคลื่นเล็กน้อย ดอก เป็นช่อยาวสีขาว ดอกช่อออกที่ซอกใบและปลายกิ่ง ดอกย่อยเรียงตัวอัดแน่น เมล็ด ขนาดเล็ก กลมสีดำ
ประโยชน์ต่อสุขภาพ :
++ ทางโภชนาการ ++ แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ วิตามินซี เบต้าแคโรทีน (ผักพื้นบ้าน อาหารไทย, 2548, 74) ครัวไทย นิยมใช้ผักโขม เป็นผักต้มจิ้มน้ำพริก และใส่แกงจืด ผัดน้ำมัน และแกง ครัวจีนนิยมใช้ผักโขมปรุงแกงจืด หรือไม่ก็นิยมมาผัดกับกระเทียมและเครื่องปรุงอื่นๆ (ผักพื้นบ้าน อาหารไทย, 2548, 74)
++ ทางยา ++ คนไทยโบราณเชื่อว่าหญิง แม่ลูกอ่อนควรกินผักโขมเพื่อบำรุงน้ำนม (ผักพื้นบ้าน อาหารไทย, 2548, 74)
** อรุณี วิเศษสุข และคณะ (2542, 144-149) กล่าวถึงคุณค่าทางยาของผักโขมทั้งสามชนิด ไว้ ดังนี้
++ ผักโขมจีนหรือผักโหมจีน ++ ทั้งต้น ดับพิษภายในและภายนอก แก้บิดมูกเลือด ริดสีดวงจมูก ริดสีดวงทวาร แก้ผื่นคัน แก้รำมะนาด รักษาฝีแผลพุพอง
++ ผักโขมหัดหรือผักโหมหัด ++ แก้คัน ตามผิวหนัง ทำให้ผิวหนังอ่อนนุ่ม แก้พิษแมลงป่อง ขับปัสสาวะ แก้ไขแก้หวัด
++ ผักโขมหนามหรือผักโหมหนาม ++ ทั้ง ต้น แก้ตกเลือด แก้แน่นท้อง ขับน้ำ ขับปัสสาวะ ใบ ฟอกเลือด ฟอกแผล ราก ใช้รักษาอาการคันที่ผิวหนัง โดยการนำมาอาบ เป็นยาระบายสำหรับเด็ก ตำพอกปิดแผลที่เป็นหนอง แก้น้ำร้อนลวก
ฤดูกาลใช้ประโยชน์ : ตลอดปี
ที่มา...http://library.cmu.ac.th/ |